ความปลอดภัยในการขี่จักรยาน
ในแต่ละสัปดาห์คนทุกวัยในรัฐวิกตอเรียมากกว่า 1 ล้านคนขี่จักรยานเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อการกีฬา เพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย หรือใช้เพื่อการเดินทาง ผู้ขี่จักรยานหรือผู้ขับขี่ยานพาหนะอื่น ๆ ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำให้ถนนของเราปลอดภัยยิ่งขึ้น
ขณะนี้กฎหมายกำหนดให้รักษาระยะห่างขั้นต่ำเมื่อขับผ่านมีผลบังคับใช้แล้วในรัฐวิกตอเรีย หากคุณขับขี่ยานพาหนะหรือรถจักรยานยนต์ คุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 1.5 เมตรในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การปฏิบัติสิ่งง่าย ๆ โดยการรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานมีความสำคัญมากที่สุด ทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเราทุกคนจะกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

ขณะนี้กฎหมายกำหนดให้รักษาระยะห่างขั้นต่ำเมื่อขับผ่านมีผลบังคับใช้แล้วในรัฐวิกตอเรีย หากคุณขับขี่ยานพาหนะหรือรถจักรยานยนต์ คุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 1.5 เมตรในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การปฏิบัติสิ่งง่าย ๆ โดยการรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานมีความสำคัญมากที่สุด ทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเราทุกคนจะกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

ข้อเท็จจริง – ความปลอดภัยบนท้องถนนและการขี่จักรยาน
- ผู้ขี่จักรยานมีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุการชนมากกว่าคนที่อยู่ในรถถึง 34 เท่า
- หากคุณขี่จักรยานคุณมีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการชนถึง 4.5 เท่า
- ในปีค.ศ. 2019 มีผู้ขี่จักรยานเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการชน 11 คน และในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 500 คน
- อุบัติเหตุการชนที่เกิดขึ้นกับผู้ขี่จักรยานมักเกิดขึ้นที่ทางแยก เมื่อออกจากเส้นทาง หรือทางเข้าออกของรถยนต์ หรือเมื่อประตูรถถูกเปิดไปชนผู้ขี่จักรยาน
- การรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างรถของคุณและผู้ขี่จักรยานสามารถช่วยลดอุบัติเหตุการชนได้


ข้อเท็จจริง – ความปลอดภัยบนท้องถนนและการขี่จักรยาน
- ผู้ขี่จักรยานมีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุการชนมากกว่าคนที่อยู่ในรถถึง 34 เท่า
- หากคุณขี่จักรยานคุณมีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการชนถึง 4.5 เท่า
- ในปีค.ศ. 2019 มีผู้ขี่จักรยานเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการชน 11 คน และในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 500 คน
- อุบัติเหตุการชนที่เกิดขึ้นกับผู้ขี่จักรยานมักเกิดขึ้นที่ทางแยก เมื่อออกจากเส้นทาง หรือทางเข้าออกของรถยนต์ หรือเมื่อประตูรถถูกเปิดไปชนผู้ขี่จักรยาน
- การรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างรถของคุณและผู้ขี่จักรยานสามารถช่วยลดอุบัติเหตุการชนได้
วิธีที่คุณสามารถช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
คุณสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุการชนกับผู้ขี่จักรยานได้โดย
- ให้พื้นที่: เว้นระยะห่างระหว่างรถของคุณกับผู้ขี่จักรยานให้เพียงพอเมื่อขับผ่าน รักษาระยะห่างอย่างน้อยหนึ่งเมตรในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอย่างน้อยหนึ่งเมตรครึ่งในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ชะลอความเร็ว: ขับรถภายในความเร็วที่กำหนดและชะลอความเร็วลงจนกว่าจะขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
- ตรวจสอบจุดบอดของยานพาหนะ: ใช้เวลาตรวจดูผู้ขี่จักรยานโดยเฉพาะที่ทางแยกและเมื่อเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา
- มองซ้าย: มองด้านซ้ายเพื่อตรวจดูผู้ขี่จักรยานในจุดบอดของรถคุณก่อนจอดรถ
- มองขวา: มองผ่านไหล่ของคุณก่อนเปิดประตูรถเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ขี่จักรยานผ่านมา วิธีนี้จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่ผู้ขี่จักรยานจะชนกับประตูรถ
วิธียกระดับความปลอดภัยของคุณในฐานะผู้ขี่จักรยาน
- ปฏิบัติตามกฎหมายด้วยการสวมหมวกกันน็อคจักรยานทุกครั้งจะช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ศีรษะจากอุบัติเหตุการชนได้ถึง 60%
- สวมรองเท้าแบบปิดเพื่อป้องกันเท้าของคุณ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เปิดไฟทั้งด้านหน้าและท้ายรถไว้ในขณะขี่จักรยานในเวลากลางคืน แสงไฟยังช่วยเพิ่มการมองเห็นในเวลากลางวันด้วย
- สวมใส่เสื้อผ้าที่เห็นได้ชัดโดยใส่เสื้อผ้าสีสะท้อนแสงหรือสีอ่อนโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
- ใช้ช่องทางจักรยานหรือเส้นทางจักรยานหากมี
- ตื่นตัวอยู่เสมอและหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิ
- ดูแลเด็กเล็กที่ใช้ของเล่นมีล้อและจักรยาน และต้องให้แน่ใจว่าพวกเขาสวมหมวกนิรภัยที่พอดี
- สนับสนุนให้เพื่อนและครอบครัวใช้มือซ้ายขณะเปิดประตูด้านคนขับ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ขับขี่หันมาตรวจดูผู้ขี่จักรยานที่ผ่านมาก่อนออกจากรถ


วิธีที่คุณสามารถช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
คุณสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุการชนกับผู้ขี่จักรยานได้โดย
- ให้พื้นที่: เว้นระยะห่างระหว่างรถของคุณกับผู้ขี่จักรยานให้เพียงพอเมื่อขับผ่าน รักษาระยะห่างอย่างน้อยหนึ่งเมตรในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอย่างน้อยหนึ่งเมตรครึ่งในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ชะลอความเร็ว: ขับรถภายในความเร็วที่กำหนดและชะลอความเร็วลงจนกว่าจะขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
- ตรวจสอบจุดบอดของยานพาหนะ: ใช้เวลาตรวจดูผู้ขี่จักรยานโดยเฉพาะที่ทางแยกและเมื่อเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา
- มองซ้าย: มองด้านซ้ายเพื่อตรวจดูผู้ขี่จักรยานในจุดบอดของรถคุณก่อนจอดรถ
- มองขวา: มองผ่านไหล่ของคุณก่อนเปิดประตูรถเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ขี่จักรยานผ่านมา วิธีนี้จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่ผู้ขี่จักรยานจะชนกับประตูรถ
วิธียกระดับความปลอดภัยของคุณในฐานะผู้ขี่จักรยาน
- ปฏิบัติตามกฎหมายด้วยการสวมหมวกกันน็อคจักรยานทุกครั้งจะช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ศีรษะจากอุบัติเหตุการชนได้ถึง 60%
- สวมรองเท้าแบบปิดเพื่อป้องกันเท้าของคุณ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เปิดไฟทั้งด้านหน้าและท้ายรถไว้ในขณะขี่จักรยานในเวลากลางคืน แสงไฟยังช่วยเพิ่มการมองเห็นในเวลากลางวันด้วย
- สวมใส่เสื้อผ้าที่เห็นได้ชัดโดยใส่เสื้อผ้าสีสะท้อนแสงหรือสีอ่อนโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
- ใช้ช่องทางจักรยานหรือเส้นทางจักรยานหากมี
- ตื่นตัวอยู่เสมอและหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิ
- ดูแลเด็กเล็กที่ใช้ของเล่นมีล้อและจักรยาน และต้องให้แน่ใจว่าพวกเขาสวมหมวกนิรภัยที่พอดี
- สนับสนุนให้เพื่อนและครอบครัวใช้มือซ้ายขณะเปิดประตูด้านคนขับ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ขับขี่หันมาตรวจดูผู้ขี่จักรยานที่ผ่านมาก่อนออกจากรถ
ขณะนี้กฎหมายกำหนดให้รักษาระยะห่างขั้นต่ำเมื่อขับผ่านมีผลบังคับใช้แล้วในรัฐวิกตอเรีย หากคุณขับขี่ยานพาหนะหรือรถจักรยานยนต์ คุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 1.5 เมตรในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การปฏิบัติสิ่งง่าย ๆ โดยการรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานมีความสำคัญมากที่สุด ทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเราทุกคนจะกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
ผู้ขี่จักรยานเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้ถนนที่เปราะบางที่สุด เมื่อเกิดอุบัติเหตุการชนรถจักรยาน ผู้ขี่จักรยานมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่อยู่ในยานพาหนะ ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับผ่านไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ขี่จักรยานได้รับบาดเจ็บบนท้องถนน แต่ผู้ขี่จักรยานอาจมีความเสี่ยงในสถานการณ์ที่มีผู้ขับผ่าน ผู้ขี่จักรยานจึงรู้สึกว่าถูกคุกคามเมื่อมียานพาหนะที่เดินทางด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือมากกว่าที่เขามองไม่เห็นจากด้านหลังขับเข้าใกล้ ยานพาหนะที่มีขนาดที่ใหญ่และขับด้วยความเร็วสามารถทำให้เกิดแรงปะทะซึ่งอาจทำให้ผู้ขี่จักรยานเสียหลักได้
การเสียชีวิตบนท้องถนนในทุกกลุ่มผู้ใช้ถนนลดลงในปีค.ศ. 2020 ยกเว้นผู้ขี่จักรยาน มีผู้ขี่จักรยานเสียชีวิตบนท้องถนน 13 คนในปีค.ศ. 2020
เหตุใดจึงมีการนำกฎหมายนี้มาบังคับใช้
ผู้ขี่จักรยานเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้ถนนที่เปราะบางที่สุด เมื่อเกิดอุบัติเหตุการชนรถจักรยาน ผู้ขี่จักรยานมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่อยู่ในยานพาหนะ ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับผ่านไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ขี่จักรยานได้รับบาดเจ็บบนท้องถนน แต่ผู้ขี่จักรยานอาจมีความเสี่ยงในสถานการณ์ที่มีผู้ขับผ่าน ผู้ขี่จักรยานจึงรู้สึกว่าถูกคุกคามเมื่อมียานพาหนะที่เดินทางด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือมากกว่าที่เขามองไม่เห็นจากด้านหลังขับเข้าใกล้ ยานพาหนะที่มีขนาดที่ใหญ่และขับด้วยความเร็วสามารถทำให้เกิดแรงปะทะซึ่งอาจทำให้ผู้ขี่จักรยานเสียหลักได้
การเสียชีวิตบนท้องถนนในทุกกลุ่มผู้ใช้ถนนลดลงในปีค.ศ. 2020 ยกเว้นผู้ขี่จักรยาน มีผู้ขี่จักรยานเสียชีวิตบนท้องถนน 13 คนในปีค.ศ. 2020
ใช้บังคับด้วย หากคุณขับขี่รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก หรือรถโดยสาร ข้อบังคับนี้จะมีผลบังคับใช้กับคุณเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากขับขี่ในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1.5 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยาน
คนขับรถโดยสารหรือรถบรรทุกอาจต้องรักษาระยะห่างมากกว่าขั้นต่ำที่กำหนดเพื่อให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
กฎหมายนี้ใช้บังคับกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ คนขับรถบรรทุกและรถโดยสารด้วยหรือไม่
ใช้บังคับด้วย หากคุณขับขี่รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก หรือรถโดยสาร ข้อบังคับนี้จะมีผลบังคับใช้กับคุณเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากขับขี่ในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1.5 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยาน
คนขับรถโดยสารหรือรถบรรทุกอาจต้องรักษาระยะห่างมากกว่าขั้นต่ำที่กำหนดเพื่อให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
ได้ ผู้ขับขี่ยานพาหนะและรถจักรยานยนต์จะได้รับอนุญาตให้ขับคร่อมเส้นแบ่งทิศทางจราจร รวมถึงเส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบเดี่ยว) เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบคู่) เส้นห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถ และเส้นเขตปลอดภัย(เกาะสี) เมื่อขับแซงผู้ขี่จักรยานก็ต่อเมื่อพวกเขามองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนและสามารถแซงได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น
รัฐอื่น ๆ ประสบความสำเร็จในการนำข้อบังคับนี้มาใช้ และเราได้ทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียหลักและพันธมิตรด้านความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมายนี้สามารถบังคับใช้ได้อย่างปลอดภัยในรัฐวิกตอเรีย
ใช้บังคับด้วย หากคุณขับขี่รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก หรือรถโดยสาร ข้อบังคับนี้จะมีผลบังคับใช้กับคุณเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องรัก
ได้ ผู้ขับขี่ยานพาหนะและรถจักรยานยนต์จะได้รับอนุญาตให้ขับคร่อมเส้นแบ่งทิศทางจราจร รวมถึงเส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบเดี่ยว) เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบคู่) เส้นห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถ และเส้นเขตปลอดภัย(เกาะสี) เมื่อขับแซงผู้ขี่จักรยานก็ต่อเมื่อพวกเขามองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนและสามารถแซงได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น
รัฐอื่น ๆ ประสบความสำเร็จในการนำข้อบังคับนี้มาใช้ และเราได้ทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียหลักและพันธมิตรด้านความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมายนี้สามารถบังคับใช้ได้อย่างปลอดภัยในรัฐวิกตอเรีย
ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับจะได้รับโทษปรับสูงสุด 10 หน่วยโทษ ($1,652 ) หรือค่าปรับ ณ จุดเกิดเหตุจำนวน 2 หน่วยโทษ ($330) การขับแซงหรือขับผ่านอย่างไม่ปลอดภัยจะถูกตัดคะแนน 2 คะแนน บทลงโทษสำหรับกรณีนี้เท่ากันกับการขับแซงโดยไม่ได้เว้นระยะห่างอย่างเพียงพอ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทลงโทษดูได้ที่ เว็บไซต์ VicRoads
บทลงโทษคืออะไร
ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับจะได้รับโทษปรับสูงสุด 10 หน่วยโทษ ($1,652 ) หรือค่าปรับ ณ จุดเกิดเหตุจำนวน 2 หน่วยโทษ ($330) การขับแซงหรือขับผ่านอย่างไม่ปลอดภัยจะถูกตัดคะแนน 2 คะแนน บทลงโทษสำหรับกรณีนี้เท่ากันกับการขับแซงโดยไม่ได้เว้นระยะห่างอย่างเพียงพอ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทลงโทษดูได้ที่ เว็บไซต์ VicRoads
คุณยังต้องรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในช่องทางเฉพาะจักรยาน บางครั้งผู้ขี่จักรยานจะขี่ชิดขอบช่องทางเพื่อหลีกเลี่ยงกรณีที่คนในรถอาจเปิดประตูออกมา
ฉันต้องรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในช่องทางเฉพาะจักรยานหรือไม่
คุณยังต้องรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในช่องทางเฉพาะจักรยาน บางครั้งผู้ขี่จักรยานจะขี่ชิดขอบช่องทางเพื่อหลีกเลี่ยงกรณีที่คนในรถอาจเปิดประตูออกมา
ได้ ผู้ขี่จักรยานสองคนยังคงได้รับอนุญาตให้ขี่เคียงข้างกันได้ตามกฎหมาย วิธีนี้มักเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดเนื่องจากช่วยให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะมองเห็นได้ และช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัยจากอันตรายบนขอบถนน ผู้ขี่จักรยานควรคำนึงถึงการจราจรที่ตามมาข้างหลังและขี่ตามกันเป็นแถวเดียวหากมีการจราจรคับคั่งหรือจะทำให้ขับผ่านได้ง่ายขึ้น
ผู้ขี่จักรยานสองคนยังสามารถขี่เคียงข้างกันได้หรือไม่
ได้ ผู้ขี่จักรยานสองคนยังคงได้รับอนุญาตให้ขี่เคียงข้างกันได้ตามกฎหมาย วิธีนี้มักเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดเนื่องจากช่วยให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะมองเห็นได้ และช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัยจากอันตรายบนขอบถนน ผู้ขี่จักรยานควรคำนึงถึงการจราจรที่ตามมาข้างหลังและขี่ตามกันเป็นแถวเดียวหากมีการจราจรคับคั่งหรือจะทำให้ขับผ่านได้ง่ายขึ้น
ไม่ต้อง เนื่องจากผู้ใช้ยานพาหนะไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหากจักรยานขี่ผ่านในระยะใกล้เกินไป ผู้ขี่จักรยานควรคำนึงถึงพื้นที่ระหว่างตัวเองกับยานพาหนะคันอื่นเมื่อขี่ผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ขี่จักรยานขี่ผ่านการจราจรที่เคลื่อนตัวช้าหรือหยุดนิ่ง ข้อบังคับนี้ใช้กับยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ไม่ได้ใช้กับผู้ขี่จักรยาน ผู้ขี่จักรยานควรรออยู่ด้านหลังยานพาหนะที่กำลังจะเลี้ยวและอย่าจอดรอข้างยานพาหนะ
ผู้ขี่จักรยานต้องรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านยานพาหนะหรือไม่
ไม่ต้อง เนื่องจากผู้ใช้ยานพาหนะไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหากจักรยานขี่ผ่านในระยะใกล้เกินไป ผู้ขี่จักรยานควรคำนึงถึงพื้นที่ระหว่างตัวเองกับยานพาหนะคันอื่นเมื่อขี่ผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ขี่จักรยานขี่ผ่านการจราจรที่เคลื่อนตัวช้าหรือหยุดนิ่ง ข้อบังคับนี้ใช้กับยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ไม่ได้ใช้กับผู้ขี่จักรยาน ผู้ขี่จักรยานควรรออยู่ด้านหลังยานพาหนะที่กำลังจะเลี้ยวและอย่าจอดรอข้างยานพาหนะ
ไม่ ข้อบังคับการจราจรนี้บัญญัติไว้เพื่อการใช้ถนนร่วมกันอย่างปลอดภัย โดยการใช้สามัญสำนึกเป็นหลัก หากไม่ปลอดภัยที่จะแซงให้ชะลอความเร็วลง อดทนรอจนกว่าจะมองเห็นทางข้างหน้าอย่างชัดเจน และขับผ่านได้อย่างปลอดภัย คุณอาจต้องรอสองสามวินาทีซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อระยะเวลาที่คุณใช้ขับไปยังปลายทาง อย่างไรก็ตามการรักษาระยะห่างสามารถรักษาชีวิตไว้ได้
ข้อบังคับนี้จะทำให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะเสี่ยงอันตรายหรือไม่
ไม่ ข้อบังคับการจราจรนี้บัญญัติไว้เพื่อการใช้ถนนร่วมกันอย่างปลอดภัย โดยการใช้สามัญสำนึกเป็นหลัก หากไม่ปลอดภัยที่จะแซงให้ชะลอความเร็วลง อดทนรอจนกว่าจะมองเห็นทางข้างหน้าอย่างชัดเจน และขับผ่านได้อย่างปลอดภัย คุณอาจต้องรอสองสามวินาทีซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อระยะเวลาที่คุณใช้ขับไปยังปลายทาง อย่างไรก็ตามการรักษาระยะห่างสามารถรักษาชีวิตไว้ได้
มีข้อบังคับอะไรบ้างสำหรับผู้ขี่จักรยาน
- ผู้ขี่จักรยานจะต้องปฏิบัติตามกฎจราจรเช่นเดียวกับผู้ขับขี่ยานพาหนะอื่น ๆ
- ผู้ขี่จักรยานสองคนได้รับอนุญาตให้ขี่เคียงข้างกันได้ หากพวกเขารักษาระยะห่างจากกันไม่เกิน 1.5 เมตร
- ผู้ขี่จักรยานได้รับอนุญาตให้ขี่บนถนนแทบทุกสายในรัฐวิกตอเรีย ในช่องเดินรถโดยสารและทางเดินร่วมสำหรับคนเดินเท้าและผู้ขี่จักรยาน ไม่อนุญาตให้ผู้ขี่จักรยานใช้ทางด่วนในเมือง ทางด่วนหรือถนนอื่น ๆ ที่มีป้ายห้ามขี่จักรยาน ถนนที่ห้ามขี่จักรยานจะมีป้ายบนทางขึ้นของส่วนต่างๆของทางด่วนที่ระบุว่า ‘No Bicycles beyond this point on this freeway except with authority(ห้ามรถจักรยานเข้าเกินจุดนี้บนทางด่วนนี้ยกเว้นจะได้รับอนุญาต’)’
- หากคุณขี่จักรยานใกล้รถที่กำลังเลี้ยวซ้าย คุณจะต้องไม่แซงทางด้านซ้ายมือ หยุดรอให้รถเลี้ยวก่อนที่จะขี่ต่อไป
- บนถนนที่มีเพียงช่องเดินรถทางเดียวที่วิ่งไปในทิศทางเดียวกัน คุณต้องขี่จักรยานให้ชิดขอบด้านซ้ายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างปลอดภัย
- หากคุณอยู่บนถนนที่มีช่องเดินรถสองช่องทางขึ้นไป คุณสามารถขี่จักรยานชิดขอบด้านซ้ายหรือตรงกลาง และใช้ช่องเดินรถด้านขวาเพื่อเลี้ยวขวา
- อนุญาตให้เลี้ยวขวาจากช่องเดินรถด้านซ้าย ที่ทางแยกทุกแห่งและสนับสนุนให้ทำเมื่อต้องเลี้ยวขวาในทุกกรณี
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถจักรยานของคุณมีไฟโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขี่จักรยานในเวลากลางคืนหรือในสภาพอากาศเลวร้าย ต้องมีไฟติดหน้ารถจักรยานเป็นแสงสีขาวและแสงสีแดงที่ท้ายรถ
- อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปีขี่จักรยานบนทางเท้าได้ และในกรณีที่คุณขี่จักรยานไปกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี หรือผู้ใหญ่ที่ขี่จักรยานที่มีที่นั่งสำหรับเด็ก คุณยังสามารถขี่จักรยานบนทางเท้าได้หากคุณมีใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าคุณมีความทุพพลภาพซึ่งเป็นอุปสรรคในการขี่จักรยานบนถนน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎและข้อบังคับดูได้ที่เว็บไซต์ VicRoads
ข้อเท็จจริง – ความปลอดภัยบนท้องถนนและการขี่จักรยาน
- ผู้ขี่จักรยานมีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุการชนมากกว่าคนที่อยู่ในรถถึง 34 เท่า
- หากคุณขี่จักรยานคุณมีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการชนถึง 4.5 เท่า
- ในปีค.ศ. 2019 มีผู้ขี่จักรยานเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการชน 11 คน และในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 500 คน
- อุบัติเหตุการชนที่เกิดขึ้นกับผู้ขี่จักรยานมักเกิดขึ้นที่ทางแยก เมื่อออกจากเส้นทาง หรือทางเข้าออกของรถยนต์ หรือเมื่อประตูรถถูกเปิดไปชนผู้ขี่จักรยาน
- การรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างรถของคุณและผู้ขี่จักรยานสามารถช่วยลดอุบัติเหตุการชนได้


ข้อเท็จจริง – ความปลอดภัยบนท้องถนนและการขี่จักรยาน
- ผู้ขี่จักรยานมีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุการชนมากกว่าคนที่อยู่ในรถถึง 34 เท่า
- หากคุณขี่จักรยานคุณมีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการชนถึง 4.5 เท่า
- ในปีค.ศ. 2019 มีผู้ขี่จักรยานเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการชน 11 คน และในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 500 คน
- อุบัติเหตุการชนที่เกิดขึ้นกับผู้ขี่จักรยานมักเกิดขึ้นที่ทางแยก เมื่อออกจากเส้นทาง หรือทางเข้าออกของรถยนต์ หรือเมื่อประตูรถถูกเปิดไปชนผู้ขี่จักรยาน
- การรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างรถของคุณและผู้ขี่จักรยานสามารถช่วยลดอุบัติเหตุการชนได้
วิธีที่คุณสามารถช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
คุณสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุการชนกับผู้ขี่จักรยานได้โดย
- ให้พื้นที่: เว้นระยะห่างระหว่างรถของคุณกับผู้ขี่จักรยานให้เพียงพอเมื่อขับผ่าน รักษาระยะห่างอย่างน้อยหนึ่งเมตรในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอย่างน้อยหนึ่งเมตรครึ่งในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ชะลอความเร็ว: ขับรถภายในความเร็วที่กำหนดและชะลอความเร็วลงจนกว่าจะขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
- ตรวจสอบจุดบอดของยานพาหนะ: ใช้เวลาตรวจดูผู้ขี่จักรยานโดยเฉพาะที่ทางแยกและเมื่อเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา
- มองซ้าย: มองด้านซ้ายเพื่อตรวจดูผู้ขี่จักรยานในจุดบอดของรถคุณก่อนจอดรถ
- มองขวา: มองผ่านไหล่ของคุณก่อนเปิดประตูรถเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ขี่จักรยานผ่านมา วิธีนี้จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่ผู้ขี่จักรยานจะชนกับประตูรถ
วิธียกระดับความปลอดภัยของคุณในฐานะผู้ขี่จักรยาน
- ปฏิบัติตามกฎหมายด้วยการสวมหมวกกันน็อคจักรยานทุกครั้งจะช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ศีรษะจากอุบัติเหตุการชนได้ถึง 60%
- สวมรองเท้าแบบปิดเพื่อป้องกันเท้าของคุณ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เปิดไฟทั้งด้านหน้าและท้ายรถไว้ในขณะขี่จักรยานในเวลากลางคืน แสงไฟยังช่วยเพิ่มการมองเห็นในเวลากลางวันด้วย
- สวมใส่เสื้อผ้าที่เห็นได้ชัดโดยใส่เสื้อผ้าสีสะท้อนแสงหรือสีอ่อนโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
- ใช้ช่องทางจักรยานหรือเส้นทางจักรยานหากมี
- ตื่นตัวอยู่เสมอและหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิ
- ดูแลเด็กเล็กที่ใช้ของเล่นมีล้อและจักรยาน และต้องให้แน่ใจว่าพวกเขาสวมหมวกนิรภัยที่พอดี
- สนับสนุนให้เพื่อนและครอบครัวใช้มือซ้ายขณะเปิดประตูด้านคนขับ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ขับขี่หันมาตรวจดูผู้ขี่จักรยานที่ผ่านมาก่อนออกจากรถ


วิธีที่คุณสามารถช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
คุณสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุการชนกับผู้ขี่จักรยานได้โดย
- ให้พื้นที่: เว้นระยะห่างระหว่างรถของคุณกับผู้ขี่จักรยานให้เพียงพอเมื่อขับผ่าน รักษาระยะห่างอย่างน้อยหนึ่งเมตรในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอย่างน้อยหนึ่งเมตรครึ่งในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ชะลอความเร็ว: ขับรถภายในความเร็วที่กำหนดและชะลอความเร็วลงจนกว่าจะขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
- ตรวจสอบจุดบอดของยานพาหนะ: ใช้เวลาตรวจดูผู้ขี่จักรยานโดยเฉพาะที่ทางแยกและเมื่อเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา
- มองซ้าย: มองด้านซ้ายเพื่อตรวจดูผู้ขี่จักรยานในจุดบอดของรถคุณก่อนจอดรถ
- มองขวา: มองผ่านไหล่ของคุณก่อนเปิดประตูรถเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ขี่จักรยานผ่านมา วิธีนี้จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่ผู้ขี่จักรยานจะชนกับประตูรถ
วิธียกระดับความปลอดภัยของคุณในฐานะผู้ขี่จักรยาน
- ปฏิบัติตามกฎหมายด้วยการสวมหมวกกันน็อคจักรยานทุกครั้งจะช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ศีรษะจากอุบัติเหตุการชนได้ถึง 60%
- สวมรองเท้าแบบปิดเพื่อป้องกันเท้าของคุณ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เปิดไฟทั้งด้านหน้าและท้ายรถไว้ในขณะขี่จักรยานในเวลากลางคืน แสงไฟยังช่วยเพิ่มการมองเห็นในเวลากลางวันด้วย
- สวมใส่เสื้อผ้าที่เห็นได้ชัดโดยใส่เสื้อผ้าสีสะท้อนแสงหรือสีอ่อนโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
- ใช้ช่องทางจักรยานหรือเส้นทางจักรยานหากมี
- ตื่นตัวอยู่เสมอและหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิ
- ดูแลเด็กเล็กที่ใช้ของเล่นมีล้อและจักรยาน และต้องให้แน่ใจว่าพวกเขาสวมหมวกนิรภัยที่พอดี
- สนับสนุนให้เพื่อนและครอบครัวใช้มือซ้ายขณะเปิดประตูด้านคนขับ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ขับขี่หันมาตรวจดูผู้ขี่จักรยานที่ผ่านมาก่อนออกจากรถ
ขณะนี้กฎหมายกำหนดให้รักษาระยะห่างขั้นต่ำเมื่อขับผ่านมีผลบังคับใช้แล้วในรัฐวิกตอเรีย หากคุณขับขี่ยานพาหนะหรือรถจักรยานยนต์ คุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 1.5 เมตรในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การปฏิบัติสิ่งง่าย ๆ โดยการรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานมีความสำคัญมากที่สุด ทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเราทุกคนจะกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
ผู้ขี่จักรยานเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้ถนนที่เปราะบางที่สุด เมื่อเกิดอุบัติเหตุการชนรถจักรยาน ผู้ขี่จักรยานมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่อยู่ในยานพาหนะ ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับผ่านไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ขี่จักรยานได้รับบาดเจ็บบนท้องถนน แต่ผู้ขี่จักรยานอาจมีความเสี่ยงในสถานการณ์ที่มีผู้ขับผ่าน ผู้ขี่จักรยานจึงรู้สึกว่าถูกคุกคามเมื่อมียานพาหนะที่เดินทางด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือมากกว่าที่เขามองไม่เห็นจากด้านหลังขับเข้าใกล้ ยานพาหนะที่มีขนาดที่ใหญ่และขับด้วยความเร็วสามารถทำให้เกิดแรงปะทะซึ่งอาจทำให้ผู้ขี่จักรยานเสียหลักได้
การเสียชีวิตบนท้องถนนในทุกกลุ่มผู้ใช้ถนนลดลงในปีค.ศ. 2020 ยกเว้นผู้ขี่จักรยาน มีผู้ขี่จักรยานเสียชีวิตบนท้องถนน 13 คนในปีค.ศ. 2020
เหตุใดจึงมีการนำกฎหมายนี้มาบังคับใช้
ผู้ขี่จักรยานเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้ถนนที่เปราะบางที่สุด เมื่อเกิดอุบัติเหตุการชนรถจักรยาน ผู้ขี่จักรยานมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่อยู่ในยานพาหนะ ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับผ่านไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ขี่จักรยานได้รับบาดเจ็บบนท้องถนน แต่ผู้ขี่จักรยานอาจมีความเสี่ยงในสถานการณ์ที่มีผู้ขับผ่าน ผู้ขี่จักรยานจึงรู้สึกว่าถูกคุกคามเมื่อมียานพาหนะที่เดินทางด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือมากกว่าที่เขามองไม่เห็นจากด้านหลังขับเข้าใกล้ ยานพาหนะที่มีขนาดที่ใหญ่และขับด้วยความเร็วสามารถทำให้เกิดแรงปะทะซึ่งอาจทำให้ผู้ขี่จักรยานเสียหลักได้
การเสียชีวิตบนท้องถนนในทุกกลุ่มผู้ใช้ถนนลดลงในปีค.ศ. 2020 ยกเว้นผู้ขี่จักรยาน มีผู้ขี่จักรยานเสียชีวิตบนท้องถนน 13 คนในปีค.ศ. 2020
ใช้บังคับด้วย หากคุณขับขี่รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก หรือรถโดยสาร ข้อบังคับนี้จะมีผลบังคับใช้กับคุณเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากขับขี่ในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1.5 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยาน
คนขับรถโดยสารหรือรถบรรทุกอาจต้องรักษาระยะห่างมากกว่าขั้นต่ำที่กำหนดเพื่อให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
กฎหมายนี้ใช้บังคับกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ คนขับรถบรรทุกและรถโดยสารด้วยหรือไม่
ใช้บังคับด้วย หากคุณขับขี่รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก หรือรถโดยสาร ข้อบังคับนี้จะมีผลบังคับใช้กับคุณเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากขับขี่ในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1.5 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยาน
คนขับรถโดยสารหรือรถบรรทุกอาจต้องรักษาระยะห่างมากกว่าขั้นต่ำที่กำหนดเพื่อให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
ได้ ผู้ขับขี่ยานพาหนะและรถจักรยานยนต์จะได้รับอนุญาตให้ขับคร่อมเส้นแบ่งทิศทางจราจร รวมถึงเส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบเดี่ยว) เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบคู่) เส้นห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถ และเส้นเขตปลอดภัย(เกาะสี) เมื่อขับแซงผู้ขี่จักรยานก็ต่อเมื่อพวกเขามองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนและสามารถแซงได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น
รัฐอื่น ๆ ประสบความสำเร็จในการนำข้อบังคับนี้มาใช้ และเราได้ทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียหลักและพันธมิตรด้านความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมายนี้สามารถบังคับใช้ได้อย่างปลอดภัยในรัฐวิกตอเรีย
ใช้บังคับด้วย หากคุณขับขี่รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก หรือรถโดยสาร ข้อบังคับนี้จะมีผลบังคับใช้กับคุณเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องรัก
ได้ ผู้ขับขี่ยานพาหนะและรถจักรยานยนต์จะได้รับอนุญาตให้ขับคร่อมเส้นแบ่งทิศทางจราจร รวมถึงเส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบเดี่ยว) เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบคู่) เส้นห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถ และเส้นเขตปลอดภัย(เกาะสี) เมื่อขับแซงผู้ขี่จักรยานก็ต่อเมื่อพวกเขามองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนและสามารถแซงได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น
รัฐอื่น ๆ ประสบความสำเร็จในการนำข้อบังคับนี้มาใช้ และเราได้ทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียหลักและพันธมิตรด้านความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมายนี้สามารถบังคับใช้ได้อย่างปลอดภัยในรัฐวิกตอเรีย
ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับจะได้รับโทษปรับสูงสุด 10 หน่วยโทษ ($1,652 ) หรือค่าปรับ ณ จุดเกิดเหตุจำนวน 2 หน่วยโทษ ($330) การขับแซงหรือขับผ่านอย่างไม่ปลอดภัยจะถูกตัดคะแนน 2 คะแนน บทลงโทษสำหรับกรณีนี้เท่ากันกับการขับแซงโดยไม่ได้เว้นระยะห่างอย่างเพียงพอ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทลงโทษดูได้ที่ เว็บไซต์ VicRoads
บทลงโทษคืออะไร
ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับจะได้รับโทษปรับสูงสุด 10 หน่วยโทษ ($1,652 ) หรือค่าปรับ ณ จุดเกิดเหตุจำนวน 2 หน่วยโทษ ($330) การขับแซงหรือขับผ่านอย่างไม่ปลอดภัยจะถูกตัดคะแนน 2 คะแนน บทลงโทษสำหรับกรณีนี้เท่ากันกับการขับแซงโดยไม่ได้เว้นระยะห่างอย่างเพียงพอ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทลงโทษดูได้ที่ เว็บไซต์ VicRoads
คุณยังต้องรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในช่องทางเฉพาะจักรยาน บางครั้งผู้ขี่จักรยานจะขี่ชิดขอบช่องทางเพื่อหลีกเลี่ยงกรณีที่คนในรถอาจเปิดประตูออกมา
ฉันต้องรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในช่องทางเฉพาะจักรยานหรือไม่
คุณยังต้องรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในช่องทางเฉพาะจักรยาน บางครั้งผู้ขี่จักรยานจะขี่ชิดขอบช่องทางเพื่อหลีกเลี่ยงกรณีที่คนในรถอาจเปิดประตูออกมา
ได้ ผู้ขี่จักรยานสองคนยังคงได้รับอนุญาตให้ขี่เคียงข้างกันได้ตามกฎหมาย วิธีนี้มักเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดเนื่องจากช่วยให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะมองเห็นได้ และช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัยจากอันตรายบนขอบถนน ผู้ขี่จักรยานควรคำนึงถึงการจราจรที่ตามมาข้างหลังและขี่ตามกันเป็นแถวเดียวหากมีการจราจรคับคั่งหรือจะทำให้ขับผ่านได้ง่ายขึ้น
ผู้ขี่จักรยานสองคนยังสามารถขี่เคียงข้างกันได้หรือไม่
ได้ ผู้ขี่จักรยานสองคนยังคงได้รับอนุญาตให้ขี่เคียงข้างกันได้ตามกฎหมาย วิธีนี้มักเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดเนื่องจากช่วยให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะมองเห็นได้ และช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัยจากอันตรายบนขอบถนน ผู้ขี่จักรยานควรคำนึงถึงการจราจรที่ตามมาข้างหลังและขี่ตามกันเป็นแถวเดียวหากมีการจราจรคับคั่งหรือจะทำให้ขับผ่านได้ง่ายขึ้น
ไม่ต้อง เนื่องจากผู้ใช้ยานพาหนะไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหากจักรยานขี่ผ่านในระยะใกล้เกินไป ผู้ขี่จักรยานควรคำนึงถึงพื้นที่ระหว่างตัวเองกับยานพาหนะคันอื่นเมื่อขี่ผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ขี่จักรยานขี่ผ่านการจราจรที่เคลื่อนตัวช้าหรือหยุดนิ่ง ข้อบังคับนี้ใช้กับยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ไม่ได้ใช้กับผู้ขี่จักรยาน ผู้ขี่จักรยานควรรออยู่ด้านหลังยานพาหนะที่กำลังจะเลี้ยวและอย่าจอดรอข้างยานพาหนะ
ผู้ขี่จักรยานต้องรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านยานพาหนะหรือไม่
ไม่ต้อง เนื่องจากผู้ใช้ยานพาหนะไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหากจักรยานขี่ผ่านในระยะใกล้เกินไป ผู้ขี่จักรยานควรคำนึงถึงพื้นที่ระหว่างตัวเองกับยานพาหนะคันอื่นเมื่อขี่ผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ขี่จักรยานขี่ผ่านการจราจรที่เคลื่อนตัวช้าหรือหยุดนิ่ง ข้อบังคับนี้ใช้กับยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ไม่ได้ใช้กับผู้ขี่จักรยาน ผู้ขี่จักรยานควรรออยู่ด้านหลังยานพาหนะที่กำลังจะเลี้ยวและอย่าจอดรอข้างยานพาหนะ
ไม่ ข้อบังคับการจราจรนี้บัญญัติไว้เพื่อการใช้ถนนร่วมกันอย่างปลอดภัย โดยการใช้สามัญสำนึกเป็นหลัก หากไม่ปลอดภัยที่จะแซงให้ชะลอความเร็วลง อดทนรอจนกว่าจะมองเห็นทางข้างหน้าอย่างชัดเจน และขับผ่านได้อย่างปลอดภัย คุณอาจต้องรอสองสามวินาทีซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อระยะเวลาที่คุณใช้ขับไปยังปลายทาง อย่างไรก็ตามการรักษาระยะห่างสามารถรักษาชีวิตไว้ได้
ข้อบังคับนี้จะทำให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะเสี่ยงอันตรายหรือไม่
ไม่ ข้อบังคับการจราจรนี้บัญญัติไว้เพื่อการใช้ถนนร่วมกันอย่างปลอดภัย โดยการใช้สามัญสำนึกเป็นหลัก หากไม่ปลอดภัยที่จะแซงให้ชะลอความเร็วลง อดทนรอจนกว่าจะมองเห็นทางข้างหน้าอย่างชัดเจน และขับผ่านได้อย่างปลอดภัย คุณอาจต้องรอสองสามวินาทีซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อระยะเวลาที่คุณใช้ขับไปยังปลายทาง อย่างไรก็ตามการรักษาระยะห่างสามารถรักษาชีวิตไว้ได้
มีข้อบังคับอะไรบ้างสำหรับผู้ขี่จักรยาน
- ผู้ขี่จักรยานจะต้องปฏิบัติตามกฎจราจรเช่นเดียวกับผู้ขับขี่ยานพาหนะอื่น ๆ
- ผู้ขี่จักรยานสองคนได้รับอนุญาตให้ขี่เคียงข้างกันได้ หากพวกเขารักษาระยะห่างจากกันไม่เกิน 1.5 เมตร
- ผู้ขี่จักรยานได้รับอนุญาตให้ขี่บนถนนแทบทุกสายในรัฐวิกตอเรีย ในช่องเดินรถโดยสารและทางเดินร่วมสำหรับคนเดินเท้าและผู้ขี่จักรยาน ไม่อนุญาตให้ผู้ขี่จักรยานใช้ทางด่วนในเมือง ทางด่วนหรือถนนอื่น ๆ ที่มีป้ายห้ามขี่จักรยาน ถนนที่ห้ามขี่จักรยานจะมีป้ายบนทางขึ้นของส่วนต่างๆของทางด่วนที่ระบุว่า ‘No Bicycles beyond this point on this freeway except with authority(ห้ามรถจักรยานเข้าเกินจุดนี้บนทางด่วนนี้ยกเว้นจะได้รับอนุญาต’)’
- หากคุณขี่จักรยานใกล้รถที่กำลังเลี้ยวซ้าย คุณจะต้องไม่แซงทางด้านซ้ายมือ หยุดรอให้รถเลี้ยวก่อนที่จะขี่ต่อไป
- บนถนนที่มีเพียงช่องเดินรถทางเดียวที่วิ่งไปในทิศทางเดียวกัน คุณต้องขี่จักรยานให้ชิดขอบด้านซ้ายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างปลอดภัย
- หากคุณอยู่บนถนนที่มีช่องเดินรถสองช่องทางขึ้นไป คุณสามารถขี่จักรยานชิดขอบด้านซ้ายหรือตรงกลาง และใช้ช่องเดินรถด้านขวาเพื่อเลี้ยวขวา
- อนุญาตให้เลี้ยวขวาจากช่องเดินรถด้านซ้าย ที่ทางแยกทุกแห่งและสนับสนุนให้ทำเมื่อต้องเลี้ยวขวาในทุกกรณี
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถจักรยานของคุณมีไฟโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขี่จักรยานในเวลากลางคืนหรือในสภาพอากาศเลวร้าย ต้องมีไฟติดหน้ารถจักรยานเป็นแสงสีขาวและแสงสีแดงที่ท้ายรถ
- อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปีขี่จักรยานบนทางเท้าได้ และในกรณีที่คุณขี่จักรยานไปกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี หรือผู้ใหญ่ที่ขี่จักรยานที่มีที่นั่งสำหรับเด็ก คุณยังสามารถขี่จักรยานบนทางเท้าได้หากคุณมีใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าคุณมีความทุพพลภาพซึ่งเป็นอุปสรรคในการขี่จักรยานบนถนน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎและข้อบังคับดูได้ที่เว็บไซต์ VicRoads
ข้อเท็จจริง – ความปลอดภัยบนท้องถนนและการขี่จักรยาน
ข้อเท็จจริง – ความปลอดภัยบนท้องถนนและการขี่จักรยาน
- ผู้ขี่จักรยานมีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุการชนมากกว่าคนที่อยู่ในรถถึง 34 เท่า
- หากคุณขี่จักรยานคุณมีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการชนถึง 4.5 เท่า
- ในปีค.ศ. 2019 มีผู้ขี่จักรยานเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการชน 11 คน และในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 500 คน
- อุบัติเหตุการชนที่เกิดขึ้นกับผู้ขี่จักรยานมักเกิดขึ้นที่ทางแยก เมื่อออกจากเส้นทาง หรือทางเข้าออกของรถยนต์ หรือเมื่อประตูรถถูกเปิดไปชนผู้ขี่จักรยาน
- การรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างรถของคุณและผู้ขี่จักรยานสามารถช่วยลดอุบัติเหตุการชนได้


ข้อเท็จจริง – ความปลอดภัยบนท้องถนนและการขี่จักรยาน
- ผู้ขี่จักรยานมีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุการชนมากกว่าคนที่อยู่ในรถถึง 34 เท่า
- หากคุณขี่จักรยานคุณมีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการชนถึง 4.5 เท่า
- ในปีค.ศ. 2019 มีผู้ขี่จักรยานเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการชน 11 คน และในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 500 คน
- อุบัติเหตุการชนที่เกิดขึ้นกับผู้ขี่จักรยานมักเกิดขึ้นที่ทางแยก เมื่อออกจากเส้นทาง หรือทางเข้าออกของรถยนต์ หรือเมื่อประตูรถถูกเปิดไปชนผู้ขี่จักรยาน
- การรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างรถของคุณและผู้ขี่จักรยานสามารถช่วยลดอุบัติเหตุการชนได้
วิธีที่คุณสามารถช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
วิธีที่คุณสามารถช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
คุณสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุการชนกับผู้ขี่จักรยานได้โดย
- ให้พื้นที่: เว้นระยะห่างระหว่างรถของคุณกับผู้ขี่จักรยานให้เพียงพอเมื่อขับผ่าน รักษาระยะห่างอย่างน้อยหนึ่งเมตรในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอย่างน้อยหนึ่งเมตรครึ่งในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ชะลอความเร็ว: ขับรถภายในความเร็วที่กำหนดและชะลอความเร็วลงจนกว่าจะขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
- ตรวจสอบจุดบอดของยานพาหนะ: ใช้เวลาตรวจดูผู้ขี่จักรยานโดยเฉพาะที่ทางแยกและเมื่อเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา
- มองซ้าย: มองด้านซ้ายเพื่อตรวจดูผู้ขี่จักรยานในจุดบอดของรถคุณก่อนจอดรถ
- มองขวา: มองผ่านไหล่ของคุณก่อนเปิดประตูรถเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ขี่จักรยานผ่านมา วิธีนี้จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่ผู้ขี่จักรยานจะชนกับประตูรถ
วิธียกระดับความปลอดภัยของคุณในฐานะผู้ขี่จักรยาน
- ปฏิบัติตามกฎหมายด้วยการสวมหมวกกันน็อคจักรยานทุกครั้งจะช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ศีรษะจากอุบัติเหตุการชนได้ถึง 60%
- สวมรองเท้าแบบปิดเพื่อป้องกันเท้าของคุณ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เปิดไฟทั้งด้านหน้าและท้ายรถไว้ในขณะขี่จักรยานในเวลากลางคืน แสงไฟยังช่วยเพิ่มการมองเห็นในเวลากลางวันด้วย
- สวมใส่เสื้อผ้าที่เห็นได้ชัดโดยใส่เสื้อผ้าสีสะท้อนแสงหรือสีอ่อนโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
- ใช้ช่องทางจักรยานหรือเส้นทางจักรยานหากมี
- ตื่นตัวอยู่เสมอและหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิ
- ดูแลเด็กเล็กที่ใช้ของเล่นมีล้อและจักรยาน และต้องให้แน่ใจว่าพวกเขาสวมหมวกนิรภัยที่พอดี
- สนับสนุนให้เพื่อนและครอบครัวใช้มือซ้ายขณะเปิดประตูด้านคนขับ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ขับขี่หันมาตรวจดูผู้ขี่จักรยานที่ผ่านมาก่อนออกจากรถ


วิธีที่คุณสามารถช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
คุณสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุการชนกับผู้ขี่จักรยานได้โดย
- ให้พื้นที่: เว้นระยะห่างระหว่างรถของคุณกับผู้ขี่จักรยานให้เพียงพอเมื่อขับผ่าน รักษาระยะห่างอย่างน้อยหนึ่งเมตรในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอย่างน้อยหนึ่งเมตรครึ่งในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ชะลอความเร็ว: ขับรถภายในความเร็วที่กำหนดและชะลอความเร็วลงจนกว่าจะขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
- ตรวจสอบจุดบอดของยานพาหนะ: ใช้เวลาตรวจดูผู้ขี่จักรยานโดยเฉพาะที่ทางแยกและเมื่อเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา
- มองซ้าย: มองด้านซ้ายเพื่อตรวจดูผู้ขี่จักรยานในจุดบอดของรถคุณก่อนจอดรถ
- มองขวา: มองผ่านไหล่ของคุณก่อนเปิดประตูรถเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ขี่จักรยานผ่านมา วิธีนี้จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่ผู้ขี่จักรยานจะชนกับประตูรถ
วิธียกระดับความปลอดภัยของคุณในฐานะผู้ขี่จักรยาน
- ปฏิบัติตามกฎหมายด้วยการสวมหมวกกันน็อคจักรยานทุกครั้งจะช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ศีรษะจากอุบัติเหตุการชนได้ถึง 60%
- สวมรองเท้าแบบปิดเพื่อป้องกันเท้าของคุณ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เปิดไฟทั้งด้านหน้าและท้ายรถไว้ในขณะขี่จักรยานในเวลากลางคืน แสงไฟยังช่วยเพิ่มการมองเห็นในเวลากลางวันด้วย
- สวมใส่เสื้อผ้าที่เห็นได้ชัดโดยใส่เสื้อผ้าสีสะท้อนแสงหรือสีอ่อนโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
- ใช้ช่องทางจักรยานหรือเส้นทางจักรยานหากมี
- ตื่นตัวอยู่เสมอและหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิ
- ดูแลเด็กเล็กที่ใช้ของเล่นมีล้อและจักรยาน และต้องให้แน่ใจว่าพวกเขาสวมหมวกนิรภัยที่พอดี
- สนับสนุนให้เพื่อนและครอบครัวใช้มือซ้ายขณะเปิดประตูด้านคนขับ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ขับขี่หันมาตรวจดูผู้ขี่จักรยานที่ผ่านมาก่อนออกจากรถ
กฎหมาย
ขณะนี้กฎหมายกำหนดให้รักษาระยะห่างขั้นต่ำเมื่อขับผ่านมีผลบังคับใช้แล้วในรัฐวิกตอเรีย หากคุณขับขี่ยานพาหนะหรือรถจักรยานยนต์ คุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 1.5 เมตรในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การปฏิบัติสิ่งง่าย ๆ โดยการรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานมีความสำคัญมากที่สุด ทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเราทุกคนจะกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
ผู้ขี่จักรยานเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้ถนนที่เปราะบางที่สุด เมื่อเกิดอุบัติเหตุการชนรถจักรยาน ผู้ขี่จักรยานมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่อยู่ในยานพาหนะ ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับผ่านไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ขี่จักรยานได้รับบาดเจ็บบนท้องถนน แต่ผู้ขี่จักรยานอาจมีความเสี่ยงในสถานการณ์ที่มีผู้ขับผ่าน ผู้ขี่จักรยานจึงรู้สึกว่าถูกคุกคามเมื่อมียานพาหนะที่เดินทางด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือมากกว่าที่เขามองไม่เห็นจากด้านหลังขับเข้าใกล้ ยานพาหนะที่มีขนาดที่ใหญ่และขับด้วยความเร็วสามารถทำให้เกิดแรงปะทะซึ่งอาจทำให้ผู้ขี่จักรยานเสียหลักได้
การเสียชีวิตบนท้องถนนในทุกกลุ่มผู้ใช้ถนนลดลงในปีค.ศ. 2020 ยกเว้นผู้ขี่จักรยาน มีผู้ขี่จักรยานเสียชีวิตบนท้องถนน 13 คนในปีค.ศ. 2020
เหตุใดจึงมีการนำกฎหมายนี้มาบังคับใช้
ผู้ขี่จักรยานเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้ถนนที่เปราะบางที่สุด เมื่อเกิดอุบัติเหตุการชนรถจักรยาน ผู้ขี่จักรยานมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่อยู่ในยานพาหนะ ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับผ่านไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ขี่จักรยานได้รับบาดเจ็บบนท้องถนน แต่ผู้ขี่จักรยานอาจมีความเสี่ยงในสถานการณ์ที่มีผู้ขับผ่าน ผู้ขี่จักรยานจึงรู้สึกว่าถูกคุกคามเมื่อมียานพาหนะที่เดินทางด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือมากกว่าที่เขามองไม่เห็นจากด้านหลังขับเข้าใกล้ ยานพาหนะที่มีขนาดที่ใหญ่และขับด้วยความเร็วสามารถทำให้เกิดแรงปะทะซึ่งอาจทำให้ผู้ขี่จักรยานเสียหลักได้
การเสียชีวิตบนท้องถนนในทุกกลุ่มผู้ใช้ถนนลดลงในปีค.ศ. 2020 ยกเว้นผู้ขี่จักรยาน มีผู้ขี่จักรยานเสียชีวิตบนท้องถนน 13 คนในปีค.ศ. 2020
ใช้บังคับด้วย หากคุณขับขี่รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก หรือรถโดยสาร ข้อบังคับนี้จะมีผลบังคับใช้กับคุณเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากขับขี่ในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1.5 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยาน
คนขับรถโดยสารหรือรถบรรทุกอาจต้องรักษาระยะห่างมากกว่าขั้นต่ำที่กำหนดเพื่อให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
กฎหมายนี้ใช้บังคับกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ คนขับรถบรรทุกและรถโดยสารด้วยหรือไม่
ใช้บังคับด้วย หากคุณขับขี่รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก หรือรถโดยสาร ข้อบังคับนี้จะมีผลบังคับใช้กับคุณเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในเขตความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากขับขี่ในเขตความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคุณจะต้องรักษาระยะห่าง 1.5 เมตรเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยาน
คนขับรถโดยสารหรือรถบรรทุกอาจต้องรักษาระยะห่างมากกว่าขั้นต่ำที่กำหนดเพื่อให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัย
ได้ ผู้ขับขี่ยานพาหนะและรถจักรยานยนต์จะได้รับอนุญาตให้ขับคร่อมเส้นแบ่งทิศทางจราจร รวมถึงเส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบเดี่ยว) เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบคู่) เส้นห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถ และเส้นเขตปลอดภัย(เกาะสี) เมื่อขับแซงผู้ขี่จักรยานก็ต่อเมื่อพวกเขามองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนและสามารถแซงได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น
รัฐอื่น ๆ ประสบความสำเร็จในการนำข้อบังคับนี้มาใช้ และเราได้ทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียหลักและพันธมิตรด้านความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมายนี้สามารถบังคับใช้ได้อย่างปลอดภัยในรัฐวิกตอเรีย
ใช้บังคับด้วย หากคุณขับขี่รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก หรือรถโดยสาร ข้อบังคับนี้จะมีผลบังคับใช้กับคุณเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องรัก
ได้ ผู้ขับขี่ยานพาหนะและรถจักรยานยนต์จะได้รับอนุญาตให้ขับคร่อมเส้นแบ่งทิศทางจราจร รวมถึงเส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบเดี่ยว) เส้นแบ่งทิศทางจราจรห้ามแซง (เส้นทึบคู่) เส้นห้ามเปลี่ยนช่องเดินรถ และเส้นเขตปลอดภัย(เกาะสี) เมื่อขับแซงผู้ขี่จักรยานก็ต่อเมื่อพวกเขามองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนและสามารถแซงได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น
รัฐอื่น ๆ ประสบความสำเร็จในการนำข้อบังคับนี้มาใช้ และเราได้ทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียหลักและพันธมิตรด้านความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมายนี้สามารถบังคับใช้ได้อย่างปลอดภัยในรัฐวิกตอเรีย
ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับจะได้รับโทษปรับสูงสุด 10 หน่วยโทษ ($1,652 ) หรือค่าปรับ ณ จุดเกิดเหตุจำนวน 2 หน่วยโทษ ($330) การขับแซงหรือขับผ่านอย่างไม่ปลอดภัยจะถูกตัดคะแนน 2 คะแนน บทลงโทษสำหรับกรณีนี้เท่ากันกับการขับแซงโดยไม่ได้เว้นระยะห่างอย่างเพียงพอ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทลงโทษดูได้ที่ เว็บไซต์ VicRoads
บทลงโทษคืออะไร
ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับจะได้รับโทษปรับสูงสุด 10 หน่วยโทษ ($1,652 ) หรือค่าปรับ ณ จุดเกิดเหตุจำนวน 2 หน่วยโทษ ($330) การขับแซงหรือขับผ่านอย่างไม่ปลอดภัยจะถูกตัดคะแนน 2 คะแนน บทลงโทษสำหรับกรณีนี้เท่ากันกับการขับแซงโดยไม่ได้เว้นระยะห่างอย่างเพียงพอ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทลงโทษดูได้ที่ เว็บไซต์ VicRoads
คุณยังต้องรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในช่องทางเฉพาะจักรยาน บางครั้งผู้ขี่จักรยานจะขี่ชิดขอบช่องทางเพื่อหลีกเลี่ยงกรณีที่คนในรถอาจเปิดประตูออกมา
ฉันต้องรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในช่องทางเฉพาะจักรยานหรือไม่
คุณยังต้องรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านผู้ขี่จักรยานในช่องทางเฉพาะจักรยาน บางครั้งผู้ขี่จักรยานจะขี่ชิดขอบช่องทางเพื่อหลีกเลี่ยงกรณีที่คนในรถอาจเปิดประตูออกมา
ได้ ผู้ขี่จักรยานสองคนยังคงได้รับอนุญาตให้ขี่เคียงข้างกันได้ตามกฎหมาย วิธีนี้มักเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดเนื่องจากช่วยให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะมองเห็นได้ และช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัยจากอันตรายบนขอบถนน ผู้ขี่จักรยานควรคำนึงถึงการจราจรที่ตามมาข้างหลังและขี่ตามกันเป็นแถวเดียวหากมีการจราจรคับคั่งหรือจะทำให้ขับผ่านได้ง่ายขึ้น
ผู้ขี่จักรยานสองคนยังสามารถขี่เคียงข้างกันได้หรือไม่
ได้ ผู้ขี่จักรยานสองคนยังคงได้รับอนุญาตให้ขี่เคียงข้างกันได้ตามกฎหมาย วิธีนี้มักเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดเนื่องจากช่วยให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะมองเห็นได้ และช่วยให้ผู้ขี่จักรยานปลอดภัยจากอันตรายบนขอบถนน ผู้ขี่จักรยานควรคำนึงถึงการจราจรที่ตามมาข้างหลังและขี่ตามกันเป็นแถวเดียวหากมีการจราจรคับคั่งหรือจะทำให้ขับผ่านได้ง่ายขึ้น
ไม่ต้อง เนื่องจากผู้ใช้ยานพาหนะไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหากจักรยานขี่ผ่านในระยะใกล้เกินไป ผู้ขี่จักรยานควรคำนึงถึงพื้นที่ระหว่างตัวเองกับยานพาหนะคันอื่นเมื่อขี่ผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ขี่จักรยานขี่ผ่านการจราจรที่เคลื่อนตัวช้าหรือหยุดนิ่ง ข้อบังคับนี้ใช้กับยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ไม่ได้ใช้กับผู้ขี่จักรยาน ผู้ขี่จักรยานควรรออยู่ด้านหลังยานพาหนะที่กำลังจะเลี้ยวและอย่าจอดรอข้างยานพาหนะ
ผู้ขี่จักรยานต้องรักษาระยะห่างเมื่อขับผ่านยานพาหนะหรือไม่
ไม่ต้อง เนื่องจากผู้ใช้ยานพาหนะไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหากจักรยานขี่ผ่านในระยะใกล้เกินไป ผู้ขี่จักรยานควรคำนึงถึงพื้นที่ระหว่างตัวเองกับยานพาหนะคันอื่นเมื่อขี่ผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ขี่จักรยานขี่ผ่านการจราจรที่เคลื่อนตัวช้าหรือหยุดนิ่ง ข้อบังคับนี้ใช้กับยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ไม่ได้ใช้กับผู้ขี่จักรยาน ผู้ขี่จักรยานควรรออยู่ด้านหลังยานพาหนะที่กำลังจะเลี้ยวและอย่าจอดรอข้างยานพาหนะ
ไม่ ข้อบังคับการจราจรนี้บัญญัติไว้เพื่อการใช้ถนนร่วมกันอย่างปลอดภัย โดยการใช้สามัญสำนึกเป็นหลัก หากไม่ปลอดภัยที่จะแซงให้ชะลอความเร็วลง อดทนรอจนกว่าจะมองเห็นทางข้างหน้าอย่างชัดเจน และขับผ่านได้อย่างปลอดภัย คุณอาจต้องรอสองสามวินาทีซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อระยะเวลาที่คุณใช้ขับไปยังปลายทาง อย่างไรก็ตามการรักษาระยะห่างสามารถรักษาชีวิตไว้ได้
ข้อบังคับนี้จะทำให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะเสี่ยงอันตรายหรือไม่
ไม่ ข้อบังคับการจราจรนี้บัญญัติไว้เพื่อการใช้ถนนร่วมกันอย่างปลอดภัย โดยการใช้สามัญสำนึกเป็นหลัก หากไม่ปลอดภัยที่จะแซงให้ชะลอความเร็วลง อดทนรอจนกว่าจะมองเห็นทางข้างหน้าอย่างชัดเจน และขับผ่านได้อย่างปลอดภัย คุณอาจต้องรอสองสามวินาทีซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อระยะเวลาที่คุณใช้ขับไปยังปลายทาง อย่างไรก็ตามการรักษาระยะห่างสามารถรักษาชีวิตไว้ได้
มีข้อบังคับอะไรบ้างสำหรับผู้ขี่จักรยาน
- ผู้ขี่จักรยานจะต้องปฏิบัติตามกฎจราจรเช่นเดียวกับผู้ขับขี่ยานพาหนะอื่น ๆ
- ผู้ขี่จักรยานสองคนได้รับอนุญาตให้ขี่เคียงข้างกันได้ หากพวกเขารักษาระยะห่างจากกันไม่เกิน 1.5 เมตร
- ผู้ขี่จักรยานได้รับอนุญาตให้ขี่บนถนนแทบทุกสายในรัฐวิกตอเรีย ในช่องเดินรถโดยสารและทางเดินร่วมสำหรับคนเดินเท้าและผู้ขี่จักรยาน ไม่อนุญาตให้ผู้ขี่จักรยานใช้ทางด่วนในเมือง ทางด่วนหรือถนนอื่น ๆ ที่มีป้ายห้ามขี่จักรยาน ถนนที่ห้ามขี่จักรยานจะมีป้ายบนทางขึ้นของส่วนต่างๆของทางด่วนที่ระบุว่า ‘No Bicycles beyond this point on this freeway except with authority(ห้ามรถจักรยานเข้าเกินจุดนี้บนทางด่วนนี้ยกเว้นจะได้รับอนุญาต’)’
- หากคุณขี่จักรยานใกล้รถที่กำลังเลี้ยวซ้าย คุณจะต้องไม่แซงทางด้านซ้ายมือ หยุดรอให้รถเลี้ยวก่อนที่จะขี่ต่อไป
- บนถนนที่มีเพียงช่องเดินรถทางเดียวที่วิ่งไปในทิศทางเดียวกัน คุณต้องขี่จักรยานให้ชิดขอบด้านซ้ายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างปลอดภัย
- หากคุณอยู่บนถนนที่มีช่องเดินรถสองช่องทางขึ้นไป คุณสามารถขี่จักรยานชิดขอบด้านซ้ายหรือตรงกลาง และใช้ช่องเดินรถด้านขวาเพื่อเลี้ยวขวา
- อนุญาตให้เลี้ยวขวาจากช่องเดินรถด้านซ้าย ที่ทางแยกทุกแห่งและสนับสนุนให้ทำเมื่อต้องเลี้ยวขวาในทุกกรณี
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถจักรยานของคุณมีไฟโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขี่จักรยานในเวลากลางคืนหรือในสภาพอากาศเลวร้าย ต้องมีไฟติดหน้ารถจักรยานเป็นแสงสีขาวและแสงสีแดงที่ท้ายรถ
- อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปีขี่จักรยานบนทางเท้าได้ และในกรณีที่คุณขี่จักรยานไปกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี หรือผู้ใหญ่ที่ขี่จักรยานที่มีที่นั่งสำหรับเด็ก คุณยังสามารถขี่จักรยานบนทางเท้าได้หากคุณมีใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าคุณมีความทุพพลภาพซึ่งเป็นอุปสรรคในการขี่จักรยานบนถนน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎและข้อบังคับดูได้ที่เว็บไซต์ VicRoads